การจัดการพลังงานเชื้อเพลิง

บริษัทซาบีน่า มุ่งมั่นที่จะควบคุมดูแลการจัดการพลังงานเชื้อเพลิง จากกิจกรรมการดำเนินงานของธุรกิจ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและการใช้ประโยชน์จากพลังงานเชื้อเพลิงอย่างคุ้มค่าที่สุด ซึ่งส่งผลทางบวกต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้พลังานเชื้อเพลิงตามความจำเป็น เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนทัศน์ “การพัฒนาที่ยั่งยืน” (Sustainable Development Goals–SDGs) ในข้อที่ 13 CLIMATE ACTION

เป้าหมายการดำเนินงาน ปี 2567

ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้เชื้อเพลิงต่อหน่วย > 125Ton.Co2e (เทียบจากชิ้นขาย)
  • การขนส่งอุปกรณ์ตกแต่งร้าน ลด > 5.50 Ton.CO2e
  • การขนส่งวัตถุดิบและกระจายสินค้าสําเร็จรูป ลด > 60.0 Ton.CO2e
  • ฝ่ายบุคคล ลด > 13.0 Ton.CO2e
  • ฝ่ายขาย ลด > 45 Ton.CO2e
  • LPG ในการย้อม ลด > 1.5 Ton.CO2e
ควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 1 ไม่เกิน 969Ton.Co2e หรือ ไม่เกิน 2% เทียบปี 2566
  • ควบคุมการใช้เชื้อเพลิงจากการขนส่งกระจายสินค้าในช่วง ต.ค - ธ.ค. ซึ่งเป็นช่วงมีปัญหามลพิษทางอากาศให้น้อยลง 10% เทียบช่วง 9 เดือนแรกของปีเพื่อลดปัญหามลพิษตามเป้าหมายเฉพาะเวลา

ผลการดำเนินงาน ปี 2567

ประเภทขนส่ง Intensity Target (Kg.CO2e) Intensity Actual (Kg.CO2e)
ขนส่งอุปกรณ์ตกแต่งร้าน 5.50 6.39
ขนส่งวัตถุดิบ/กระจายสินค้าสำเร็จรูป 60.00 63.70
ฝ่ายบุคคล 13.00 10.80
ฝ่ายขาย 45.00 52.61
การใช้ LPG 1.50 2.56
รวม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 125.00 136.06

หมายเหตุ: เปิดเผยข้อมูลตามกรอบ GRI 305-1 การปล่อย GHG ทางตรง

สามารถควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 1 ไม่เกิน 969Ton.Co2e โดยอยู่ที่ 962.92 Ton.Co2e.

ประเภทการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 2566 TonCO2e 2567 TonCO2e
592.65 607.88
260.46 264.70
40.08 43.43
50.66 46.90
อื่นๆ 2.06 0
Total 949.91 962.92

สรุป ปริมาณการใช้นํ้ามันและเชื้อเพลิงของบริษัท

รายละเอียด หน่วย ประจำปี
2565 2566 2567
น้ำมันดีเซล ลิตร 195,819.88 216,764.35 221,808.85
น้ำมันเบนซิน ลิตร 80,613.10 115,868.39 116,518.63
ก๊าซหุงต้ม กิโลกรัม 15,309.00 12,875.00 13,950.00

สรุป ค่าใช้จ่ายการใช้นํ้ามันและเชื้อเพลิงของบริษัท

รายละเอียด หน่วย ประจำปี
2565 2566 2567
ค่าใช้จ่ายการใช้น้ำมันและเชื้อเพลิง บาท 12,227,490 14,631,556 14,284,934.49
ร้อยละค่าใช้จ่ายการใช้น้ำมันและเชื้อเพลิงต่อค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน % 1.20% 1.27% 1.19%
อัตราส่วนค่าใช้จ่ายการใช้น้ำมันและเชื้อเพลิงต่อรายได้จากการขายสินค้าและบริการ บาท/รายได้ (พันบาท) 3.87 4.26 4.00

การจัดการพลังงานไฟฟ้า

การขยายตัวของอุตสาหกรรมทำให้การใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อน และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ที่เป็นอันตราย เช่น ภัยแล้ง พายุฝน และน้ำท่วม รวมทั้งการปรับเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานไฟฟ้า ทำให้ต้นทุนสินค้าปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงกำหนดเป้าหมายในการจัดการพลังงานไฟฟ้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งพัฒนาการใช้พลังงานทดแทนให้เป็นไปตามกระบวนทัศน์ “การพัฒนาที่ยั่งยืน” (Sustainable Development Goals–SDGs) ในข้อที่ 7 Affordable and clean energy

ทั้งนี้ บริษัทกำหนดเป้าหมายระยะยาว 5 ปี ในการลดปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อการผลิต 1 ใน 3 นับจากปี 2562 ซึ่งมีปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพื่อการผลิต 5,798,536 KW. โดยมีเป้าหมายปรับลด 33% หรือในปี 2567 จะต้องมีปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพื่อการผลิต ไม่เกิน 3,885,019 KW.

เป้าหมายการดำเนินงาน ปี 2567

ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า 20% เทียบปี 2566
พัฒนาสัดส่วนการใช้พลังงานไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน 20% ของปริมาณไฟฟ้าทั้งหมด
เป้าหมายต่อเนื่อง ปี การใช้ไฟ (Kwh) ค่าไฟที่ลดลง
2562 5,798,536
ปีฐาน 2566 4,782,461 23%
เป้าหมายระยะสั้น (เทียบ 2562) 2567 3,885,019 33%
เป้าหมายระยะกลาง (เทียบปีฐาน) 2573 2,869,476 40%
เป้าหมายระยะยาว (เทียบปีฐาน) 2593 0 100%

สรุปผลการดำเนินงาน การจัดการพลังงานไฟฟ้า ปี 2567

การใช้ไฟฟ้า

ภาพรวมการใช้ไฟต่อหน่วยผลิตแผนกโมลด์ฟอง แผนกตัด แผนกเย็บและแพ็ค สามารถปรับลดการใช้ไฟต่อหน่วยผลิตลดลง 33.86%

ผลิตลดลง
0%
ลดการใช้ไฟต่อหน่วย
ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า

จากผลการดำเนินงานด้านการใช้ไฟฟ้าพลังทดแทนบริษัทลดการใช้ไฟฟ้า ได้ 23.72% จากเป้าหมาย 20%

โดยมีสัดส่วนพลังงานทดแทนที่ 21.23%

การใช้พลังงานไฟฟ้าในปี 2567
0
Kwh
ทำให้ภาพรวมการใช้พลังงานทั้งองค์กรลดลง 2.94%

การบริหารจัดการน้ำ

น้ำเป็นทรัพยากรที่มีสำคัญต่อการดำรงชีวิตและการดำเนินกิจกรรมต่างๆ บริษัทจึงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการเข้าถึงน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภคของพนักงานในองค์กร และมีระบบสุขาภิบาลที่ดี นอกจากนี้บริษัท ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงมุ่งมั่นที่จะบริหารจัดการ การใช้น้ำในองค์กร รวมทั้งควบคุมดูแลจัดการน้ำทิ้งที่ปล่อยออกจากโรงงาน เพื่อไม่สร้างผลกระทบทางลบแก่ชุมชนรอบข้าง ซึ่งเป็นไปตามกระบวนทัศน์ “การพัฒนาที่ยั่งยืน” (Sustainable Development Goals-SDGs) ข้อ 6 การจัดการน้ำและสุขาภิบาล

เป้าหมายการดำเนินงาน ปี 2567

โดยมีเป้าหมายระยะยาวในการปรับลดการใช้น้ำ
0% ในปี 2569
เมื่อเทียบกับปี 2565 หรือ 84,015 ลบ.ม
แก้ไขปัญหาและปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้นํ้า
  • การใช้นํ้ารวมทั้งองค์กรลดลงไม่ตํ่ากว่า 25% เมื่อเทียบปี 2566
  • การใช้นํ้าต่อคนขององค์กรลดลงไม่ตํ่ากว่า 25% เมื่อเทียบปี 2566
แก้ไขปัญหาและปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้นํ้าในช่วงวิกฤต (มีค. เมย. พค.)ของสถานที่เฉพาะ
  • การใช้นํ้าบาดาลของโรงงานพุทธมณฑลสาย5 โรงงานชัยนาท โรงงานยโสธรลดลง 30% เมื่อเทียบช่วงนี้ของปี 2566
  • ปรับลดกระบวนการในการใช้นํ้าช่วงเวลาวิกฤต
บริหารจัดการนํ้าทิ้ง
จากการอุปโภคให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่กฎหมายกําหนด 90%
ดูแลจัดการบําบัดนํ้าทิ้งจากการย้อม
ให้ผ่านตามเกณฑ์มาตรฐานที่กฎหมายกําหนด และไม่ส่งผลกระทบทางลบต่อชุมชน

ผลการดำเนินงาน ปี 2567

การตรวจสอบคุณภาพน้ำดื่ม

ผ่านตามเกณฑ์มาตรฐาน

โรงงาน ปริมาณน้ำใช้ ปริมาณน้ำทิ้ง วันที่ตรวจสอบ หน่วยงาน % ผ่าน
พุทธมณฑลสาย 5 30,800 26,779 20/11/2567 บริษัท ซี อี เอ็ม เทคโนโลยี จำกัด 100
ท่าพระ 3,910 3,128 07/08/2567 บริษัท ซี อี เอ็ม เทคโนโลยี จำกัด 100
ชัยนาท 6,661 5,329 27/02/2567 บริษัท เทสท์ เทค จํากัด 100
ยโสธร 16,777 13,422 15/03/2567 บริษัท สไมล์ แล็บบอราทอรี่ จำกัด 100
บุรีรัมย์ 924 739 - 0
สำนักงานใหญ่ 3,038 2,430 28/11/2567 บริษัท ซี อี เอ็ม เทคโนโลยี จำกัด 100
ปริมาณการใช้น้ำรวม หน่วย: ลบ.ม 62,110 51,827 98

หมายเหตุ : เปิดเผยข้อมูลตามกรอบ GRI 303-5 ปริมาณการใช้นํ้า, GRI 303-4 การปล่อยนํ้า ทั้งนี้ โรงงานสาขาบุรีรัมย์ได้ย้ายฐานการผลิตไปรวมกับโรงงานสาขายโสธร ทําให้ไม่มีการตรวจสอบคุณภาพนํ้าทิ้ง

อัตราการใช้น้ำต่อคนเฉลี่ย

ในปี 2567 มีอัตราการใช้น้ำต่อคนเฉลี่ยที่ 2.21 ลบ.ม. ซึ่งลดลง จากในปี 2565 และ การลดการใช้น้ำต่อคนได้ 30% ซึ่งบรรลุผลเหนือกว่าเป้าหมายที่กําหนดไว้ 20%

อัตราการใช้น้ำต่อคนเฉลี่ย
0
ลบ.ม.
ปริมาณการใช้น้ำขององค์กร
ปริมาณการใช้น้ำขององค์กรเป็นจำนวน
0
ลบม.

ปริมาณการใช้นํ้า:คนของโรงงานรวม 3 ปี

ประเภทน้ำ 2567 2566 2565
ประปา 32,628 35,999 25,907
บาดาล 28,282 63,004 67,698
รวม หน่วย:ลบ.ม. 60,910 99,003 93,605
จำนวนคน 3,214 3,488 3,318
รวมการใช้น้ำ:คน 18.95 28.38 28.21
บำบัดน้ำทิ้ง

จากการดำเนินมาตรการต่างๆเพื่อดูแลและบำบัดน้ำทิ้งก่อนปล่อยออกจากโรงงาน ทำให้ผลการตรวจวัดสารเคมีตกค้างจากตัวอย่างน้ำทิ้งของบริษัท เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดทุกค่าในแต่ละเดือน

การบริหารจัดการของเสีย

ขยะมูลฝอยทำให้เกิดปัญหาต่อสภาพแวดล้อมในการทำงาน ส่งกลิ่นรบกวนเป็นแหล่งเกิดเชื้อโรคและอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของพนักงาน และชุมชนรอบข้าง รวมทั้งการกำจัดขยะฝังกลบทำให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ( 1 Kg. = 0.842 Kg.Co2 ) ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาพการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ ( Climate Change) บริษัทจึงตระหนักถึงความสำคัญในการบริหารจัดการของเสีย และเป็นความรับผิดชอบต่อการดำเนินงานของบริษัท ทั้งนี้ขยะหรือของเสียในองค์กร แบ่งเป็น ขยะที่เกิดจากคน และขยะที่เกิดจากกระบวนการผลิต เช่น เศษผ้า เศษฟอง ด้าย ยาง โดยมีการเดินทางของขยะ (Waste Flow) ดังนี้

เป้าหมายการดำเนินการ ปี 2567

ลดปริมาณขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ 10%
ลดปริมาณขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ เทียบยอดขาย 20%
บริหารจัดการให้มีขยะ RECYCLE 85% ของขยะทั้งหมด
4.ไม่มีข้อร้องเรียน จากชุมชน เรื่อง ผลกระทบจากปัญหาขยะ โดยมีเป้าหมายระยะ 3 ปีนับจากปี2567 ในการลดก๊าซเรือนกระจกจากขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ โดยปรับลด 10% ภายในปี 2570 และมีเป้าหมายระยะยาวในการบริหารจัดการของเสียให้มีสัดส่วนเป็นรีไซเคิล 95% ในปี 2573

ผลการดำเนินงาน ปี 2567

เป้าหมายขยะฝังกลบ
ลดปริมาณขยะฝังกลบ
- 0 %
เทียบปี 2566
ขยะฝังกลบ 1 กิโลกรัม ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 0.842 Kg.CO2 2565 2566 2567
รวมขยะฝังกลบ (กิโลกรัม) 131,058 112,913 92,174.24
อัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (K.g.CO2) 110,351 95,073 77,611
% ปรับลดเทียบต่อปี (9%) (14%) (18%)
ทั้งนี้เมื่อเทียบกับปี 2566 บริษัทปรับลดปริมาณขยะฝังกลบ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง คิดเป็น 18%

หมายเหตุ : เปิดเผยข้อมูลตามกรอบ GRI 305-3 การปล่อยก๊าซ GHG ทางอ้อมอื่น ๆ (ขอบเขต 3)

ขยะฝังกลบ
ลดปริมาณขยะฝังกลบ เทียบยอดขาย
- 0 %
เทียบปี 2566
ขยะฝังกลบ 1 กิโลกรัม 2565 2566 2567
รวมขยะฝังกลบ (กิโลกรัม) 131,058 112,913 92,174.24
ยอดขาย (ล้านบาท) 3,186 3,431 3,586
% เทียบยอดขาย 0.0041 0.0033 0.0026
% เทียบปี (24%) (21%) (22%)
ปริมาณขยะฝังกลบเมื่อเทียบกับยอดขายปี 2567 บริษัทปรับลดปริมาณขยะฝังกลบ คิดเป็น 21%
ขยะ RECYCLE
บริหารจัดการให้ขยะขององค์กรมีสัดส่วน RECYCLE
0 %
ประเภทขยะ 2565 2566 2567
ขยะ อันตราย ขยะไม่อันตราย ขยะอันตราย ขยะไม่อันตราย ขยะอันตราย ขยะไม่อันตราย
ขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ 131,058.00 112,913.00 1,163.24 91,011.00
ขยะ RECYCLE 17.27 311,562.70 1,000.58 578,835.45 4,962.78 510,143.87
ปริมาณขยะรวม 17.27 442,620.70 1,000.58 691,748.45 6,126.02 601,154.87
% RECYCLE 0.00% 70.39% 0.14% 83.56% 0.82% 84.00%
ปริมาณขยะรวมทุกประเภท 442,637.97 692,749.03 607,280.89

หมายเหตุ : เปิดเผยข้อมูลตามกรอบ GRI 306-2 ประเภทของเสียและวิธีการกําจัด

ไม่มีข้อร้องเรียน จากชุมชน เรื่อง ผลกระทบจากปัญหาขยะ

ไม่มีข้อร้องเรียน จากชุมชน เรื่อง ผลกระทบจากปัญหาขยะ สรุปผลการสำรวจชุมชนในเรื่องผลกระทบจากการดำเนินงานของบริษัท ในโรงงานสาขาท่าพระ, พุทธมณฑลสาย 5, ชัยนาท และยโสธร พบว่าชุมชนไม่ได้รับผลกระทบ หรือได้รับผลกระทบเล็กน้อย ซึ่งโรงงานสาขาสามารถดำเนินการแก้ไขได้

ไม่มีข้อร้องเรียน

การบริหารจัดการผลิตภัณฑ์

ในขณะที่อุตสาหกรรมแฟชั่น เป็นอุตสาหกรรมที่สร้างผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมมากเป็นอันดับ 2 ของโลก ซาบีน่าผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชุดชั้นในชั้นนำของประเทศไทย จึงมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้

เพื่อลดปริมาณขยะ และมลพิษ โดยการนำวัตถุดิบที่เหลือใช้จากการผลิต กลับหมุนเวียนกลับมาใช้ และรีไซเคิลเป็น "ผลิตภัณฑ์ และ บรรจุภัณฑ์" แทนการต้องผลิตใหม่อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากร อย่างคุ้มค่า
เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่อย่างยั่งยืน ให้ผู้บริโภคมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยการสร้าง "ผลิตภัณฑ์ทางเลือก" ที่เป็นมิตรและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้คนไทยได้เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้อง ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

เป้าหมายการดำเนินการ ปี 2567

วัสดุที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
มุ่งเน้นการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัสดุที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Products) เป็นจำนวน 5% จาก SKU ในปี 2566 ทั้งนี้บริษัทมีเป้าหมายระยะยาวที่จะมีผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นสัดส่วน SKU 10% ในปี 2568
ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการทำบรรจุภัณฑ์
ที่ส่งถึงลูกค้าปลายทาง
ยูนิฟอร์มรักษ์โลก
ปรับเปลี่ยนชุดพนักงานใหม่ ภายในแนวคิด “ยูนิฟอร์มรักษ์โลก” สำหรับพนักงานขายและพนักงานออฟฟิศ

ผลการดำเนินการ ปี 2567

ในปี 2567 ซาบีน่าสามารถสร้างผลิตภัณฑ์จากวัสดุที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้ 8.53% จาก SKU ทั้งหมด

ผลิตภัณฑ์จากวัสดุที่ยั่งยืน
0%
เป้าหมายที่กำหนดไว้ 5%

บริษัทสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัสดุที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นจํานวน 8.53% จากจํานวน SKU ที่ผลิตทั้งหมด เหนือกว่าเป้าหมายที่กําหนดไว้ 8.0% โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ผลิตภัณฑ์หลัก (Core Product) และคอลเลคชั่นพิเศษ(Collection) ดังนี้

  1. ผลิตภัณฑ์หลัก (Core Product) ซึ่งเป็นสินค้าที่มีบทบาทสําคัญและสร้างรายได้หลักให้กับบริษัท

    1.1 เสื้อชั้นในรักษ์โลก จากรุ่น Perfect Bra ชุดชั้นในสําหรับสาวคัพใหญ่

    ในปี 2567 บริษัทได้สานต่อการจําหน่าย เสื้อชั้นในรักษ์โลก รุ่น Perfect Bra อย่างต่อเนื่อง นับจากปี 2566 ซึ่งการพัฒนาและผลิตเสื้อชั้นในรุ่นนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน ดังนี้

    • ฟองโมลด์ Green Foam ผลิตจากส่วนผสมของ นํ้ามันปาล์ม 10% ทดแทนการใช้นํ้ามันดิบในกระบวนการผลิต
    • ผ้า TERRYL®/ECOPENT®เป็นเส้นใย Bio-based polyamide fiber ที่ผลิตจาก พืชที่ปลูกทดแทนใหม่ได้ (Renewable Plant Raw Materials)

    1.2 กางเกงในรักษ์โลก จากรุ่น PANTY ZONE : CLOUD ON SERIES :โดยผลิตภัณฑ์รุ่นนี้ผลิตจาก ผ้าโมดัล เส้นใย TENCELTM Modal ซึ่งเป็นเส้นใยเซลลูโลสคุณภาพสูงที่ได้จากไม้บีชในยุโรป

    1.3 ชุดชั้นใน Forever Young Gold : Forever Young Gold โ ด ด เด่นด้วยการเลือกใช้ ผ้า Bamboo Cotton Organic ซึ่งผลิตจากเส้น ใยไม้ไผ่และฝ้ายออร์แกนิกที่ปลูกโดยปราศจากสารเคมี และสารพิษ อันเป็นมิตรต่อทั้งผิวผู้สวมใส่และสิ่งแวดล้อม

  1. คอลเลคชั่น (Collection) ผลิตภัณฑ์ที่มีการออกแบบและผลิตตามฤดูกาลหรือเทรนด์แฟชั่น

    2.1 เส้นใยรีไซเคิลจากอวนประมง บริษัทออกผลิตภัณฑ์ในโอกาสวันคุ้มครองโลก (Earth Day) ภายใต้คอลเลคชั่นพิเศษ "From Marine to Fashion: จากท้องทะเล สู่แฟชั่นรักษ์โลก" โดยร่วมมือในโครงการ "Nets Up" ซึ่งเปลี่ยนอวนประมงที่ไม่ใช้แล้วให้ กลายเป็น 'ชุดชั้นใน' เป็นแบรนด์แรกในอุตสาหกรรม

    2.2 เส้นใยฟิลาเจนจากเกล็ดปลา บริษัทพัฒนาผลิตภัณฑ์จากเส้นใยฟิ ลาเจนจากเกล็ดปลาในคอลเลคชั่น Top soft bra ประกอบด้วย เสื้อชั้นในและกางเกงใน

    2.3 เส้นใยรีไซเคิลจากเศษผ้า เส้นใยรีไซเคิลนี้มาจากการแปรรูปเศษด้ายและเศษผ้าที่เหลือใช้จากกระบวนการผลิต นํามาพัฒนาเป็นเส้นใย ไนลอนรีไซเคิลคุณภาพสูง ก่อนนําไปผลิตเป็นลูกไม้เกรดพรีเมียมสําหรับชุดชั้นใน ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เพียงคงไว้ซึ่งความ สวยงามและความหรูหราของดีไซน์ แต่ยังช่วยลดขยะสิ่งทอจากกระบวนการผลิต พร้อมส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่าง คุ้มค่า

ในปี 2566 ซาบีน่าปรับผ้าเสื้อเชิ้ตพนักงานเป็นผ้า TC220 เส้น ซึ่งมีส่วนผสม 65% Recycled polyester โดยเสื้อเชิ้ต 1 ตัว ทำจากพลาสติครีไซเคิล 165 กรัม ดังนั้นในปี 2566 ซึ่งมอบเสื้อเชิ้ตให้พนักงานจำนวน 3,590 ตัว จึงเท่ากับรีไซเคิลขวดพลาสติกขนาด 600 มล. ได้ประมาณ 53,850 ขวด

เสื้อเชิ้ตพนักงานจำนวน 3,590 ตัว เท่ากับรีไซเคิลขวดพลาสติกขนาด 600 มล.
0
ขวด

New Life BRA CYCLE “โละบราเก่า…ไปเป็นพลังงานสะอาด”

บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้นำธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายชุดชั้นในสำหรับสุภาพสตรี ซึ่งมีการพัฒนาสินค้าให้มีนวัตกรรมที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์แต่ละความต้องการของลูกค้าทั้งในเรื่องดีไซน์และลักษณะการใช้งานที่มีความต้องการต่างกันในแต่ละโอกาส เรายังใส่ใจในกระบวนการจัดการกับผลิตภัณฑ์ที่เสื่อมสภาพแล้ว เพราะเราเชื่อว่า หลายๆ คนอาจจะประสบปัญหาอยากทิ้งชุดชั้นในเก่าที่เสื่อมสภาพแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าควรจะทิ้งที่ไหน และเมื่อทิ้งไปแล้วจะมีวิธีการจัดการที่ถูกต้องหรือไม่ ด้วยปัญหาเหล่านี้ SABINA จึงมีโครงการ “New Life BRA CYCLE โละบราเก่าไปเป็นพลังงานสะอาด” โดยจะเป็นการช่วยผู้บริโภคในการกำจัดชุดชั้นในเก่าที่เสื่อมสภาพอย่างถูกวิธี อีกทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นในความพยายามในการลดภาวะโลกร้อน และรับผิดชอบต่อปริมาณขยะที่เราได้สร้างเพิ่มขึ้นในระบบนิเวศน์

เป้าหมายการดำเนินการ ปี 2567

มุ่งหวังเป็นตัวกลางที่จะช่วยผู้บริโภคกําจัดชุดชั้นในเก่าที่เสื่อมสภาพ 16 ตัน ให้กลายเป็นพลังงานความร้อนทดแทนถ่านหิน โดยตั้งเป้าลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 26,000 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ ภายในปี 2567
ร่วมมือกับพันธมิตรที่มีนโยบายสอดคล้องในทิศทางเดียวกัน เพื่อร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยตั้งเป้าสร้างความร่วมมือ 60 พันธมิตร ภายในปี 2567
บริจาคชุดชั้นในใหม่เพื่อช่วยเหลือสังคม ให้กับมูลนิธิหรือหน่วยงานที่ขาดแคลนทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าส่งมอบชุดชั้นใน 10 แห่ง ภายในปี 2567

ผลการดำเนินงาน ปี 2567

เป็นคนกลางในการกำจัดชุดชั้นในเก่า 15 ตัน ภายในปี 2566 จากการดำเนินงานที่ผ่านมา ผู้บริโภคได้สนใจเข้าร่วมโครงการบราโละ โดยส่งมอบชุดชั้นในเก่า เสื่อมสภาพที่ไม่ใช้แล้ว มาเปลี่ยนเป็นพลังงานสะอาด

เป็นคนกลางในการกำจัดชุดชั้นในเก่า
0
ตัน
ภายในปี 2567 จากการดำเนินงานที่ผ่านมา
เปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน
0
เมกะจูน
ทดแทนการใช้ถ่านหิน
0
กิโลกรัม
ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
0
กิโลกรัม

จำนวน 14.66 ตัน ซึ่งมีปริมาณลดลงจากปี 2565 เล็กน้อย โดยมีรายละเอียดตามตาราง

ปี ชุดชั้นในเสื่อมสภาพ (ตัน) เปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ทดแทนการใช้ถ่านหิน ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
2565 15 ตัน 331,200 เมกะจูล 14,720 กิโลกรัม 24,562 กิโลกรัม
2566 14.66 ตัน 323,710 เมกะจูล 14,387 กิโลกรัม 24,006 กิโลกรัม
2567 15.03 ตัน 331,879 เมกะจูล 14,750.23 กิโลกรัม 24,612.36 กิโลกรัม
รวมสะสม 44.69 ตัน 986,789 เมกะจูล 43,857.23 กิโลกรัม 73,180.36 กิโลกรัม

ทั้งนี้ปริมาณการโละชุดชั้นในเก่าในปี 2566 จำนวน 14.66 ตัน คิดเป็นการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 24,006 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ รวมยอดสะสมตลอดโครงการ 2565 – 2566 สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เท่ากับ 48,568 kgCO2e

สรุปผลการดำเนินงานโดยร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อขยายขอบเขตโครงการบราโละภายในห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งมีเป้าหมาย 60 พันธมิตร ภายในปี 2567 สรุปพันธมิตรและหน่วยงานที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น จำนวน 64 พันธมิตร เพื่อขึ้นจากปี 2566 ซึ่งมี 54 พันธมิตร คิดเป็นอัตราเพิ่มขิ้น 18.52%

พันธมิตรและหน่วยงานที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้นจำนวน
0
พันธมิตร

การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก

บริษัทฯได้ตระหนักถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่จะส่งผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิกาศ (Climate Change) อย่างรุนแรงในอนาคต และเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลรักษาสภาพภูมิอากาศ ทางบริษัทจึงได้ดำเนินการประเมิน Carbon Footprint for Organization : CFO เพื่อให้ทราบถึงปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่บริษัทได้ปล่อยออกจากการดำเนินงานธุรกิจ และมีการกำหนดแนวทางในการลดก๊าซเรือนกระจก บริษัทได้กำหนดกลยุทธ์ในการทำให้ก๊าซเรือนกระจกลดลง 40% ให้ได้ตามเป้าหมาย ภายในปี 2030 และสามารถดำเนินนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)ในปี 2050 ตาม(Sustainable Development Goals–SDGs) ในข้อที่ 9,13

สรุปผลก๊าซเรือนกระจกทุกโครงการ ปี2567

ผลเทียบเป้า

หน่วย : กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์

หมายเหตุ : เปิดเผยข้อมูลตามกรอบ GRI 305-5 ลดการปล่อย greenhouse gases หรือก๊าซเรือนกระจกทางอ้อม

ปีที่ประเมิน วันที่รับรอง ผู้ตรวจสอบ ผลประเมินก๊าซเรือนกระจกที่บริษัทได้รับ
ผล Co2 ขอบเขตที่ 1 ผล Co2 ขอบเขตที่ 2 ผล Co2 ขอบเขตที่ 3 ผล Co2 การดูดกลับ
2565 28/08/2566 บริษัท บูโรเวอริทัส เซอทิฟิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด 1,012 Tonco2 2,112 Tonco2 9,799 Tonco2 -
2566 09/05/2567 บริษัท บีเอสไอ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด 950 Tonco2 2,391 Tonco2 10,069 Tonco2 569.36 Tonco2
2567 ระหว่างรอขึ้นทะเบียน บริษัท บีเอสไอ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด 962.92 Tonco2 1,820.54 Tonco2 12,390.89 Tonco2 30.29 Tonco2

โครงการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพและพื้นที่ป่าไม้

ผู้บริหาร และพนักงานทุกระดับได้ตระหนักถึงความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Climate change) อาทิเช่น การขาดแคลนน้ำ น้ำท่วม น้ำแข็งขั้วโลกละลาย โรคระบาด ฯลฯ

ผลการดำเนินงาน ปี 2567

โครงการ “ปลูกต้นไม้และความหลากหลายทางชีวภาพ”

บริษัท ซาบีน่า จึงได้ริเริ่มโครงการปลูกต้นไม้เพิ่มเติมในพื้นที่ว่างของโรงงาน เพื่อให้เกิดการกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลงสู่ต้นไม้และพื้นดิน และเพื่อการเพิ่มอากาศที่สะอาด รวมถึงการที่ผู้บริหารมุ่งมั่นที่จะให้บริษัทเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon neutrality) ในปี 2050 และส่งเสริมสนับสนุนการควบคุมอุณหภูมิโลกให้เพิ่มไม่เกิน 1.5 องศา

ผู้บริหารมุ่งมั่นที่จะให้บริษัทเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon neutrality) ในปี 2050 และส่งเสริมสนับสนุนการควบคุมอุณหภูมิโลกให้เพิ่มไม่เกิน
0
องศา

บริษัท ซาบีน่า จำกัด(มหาชน) สาขายโสธร โดยผู้บริหารและพนักงาน ได้ร่วมกับกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดยโสธร เริ่มปลูกวันที่ 8/6/2566

ประเภทการปลูก(ยโสธร) จำนวนต้นไม้ที่ปลูก จำนวน Co2 ที่ลด KgCo2
2566 2567(เพิ่มพูน)
ปลูกเดิม (ในโรงงาน) 357 634,309.17 16,893.46
ปลูกเดิม (นอกโรงงาน) 539 140,583.98 -
ปลูกเพิ่ม (นอกโรงงาน) 1,736 20,832 -
รวม 2,632 795,725.15 -

และบริษัท ซาบีน่า จำกัด(มหาชน) ชัยนาท ผู้บริหารและพนักงานโรงงานได้ปลูกต้นไม้ ในพื้นที่

ทั้งนี้โดยรวมแล้วบริษัทฯ ได้มีปริมาณการดูดกลับต้นไม้ภายในโรงงาน อยู่ที่ 569,360 KgCO2 ตามใบประกาศ Carbon Footprint for Organization จาก องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)

ประเภทการปลูก(ยโสธร) จำนวนต้นไม้ที่ปลูก จำนวน Co2 ที่ลด KgCo2
2566 2567(เพิ่มพูน)
ปลูกเดิม (ในโรงงาน) 63 78,612.20 13,396.65
ปลูกเดิม (นอกโรงงาน) 807 262,119.78 -
ปลูกเพิ่ม (นอกโรงงาน) 754 9,048 -
รวม 1,624 349,779.98 13,396.65

โรงงาน พุทธมณฑลสาย 5 ผู้บริหารและพนักงานโรงงานได้ปลูกต้นไม้ ในพื้นที่

ประเภทการปลูก(ยโสธร) จำนวนต้นไม้ที่ปลูก จำนวน Co2 ที่ลด KgCo2
2566 2567(เพิ่มพูน)
ปลูกใหม่ (นอกโรงงาน) 800 0 -
รวม - 0 0

ทั้งนี้บริษัทฯต้องการให้การดำเนินงานด้าน สิ่งแวดล้อม และการจัดการก๊าซเรือนกระจก เป็นเรื่องสำคัญ และให้เป็นไปตามข้อกำหนดตามหลักสากล

โดยสามารถนำความรู้มาปรับใช้กับนโยบายบริษัทได้ บริษัทฯจึงได้ส่งพนักงานเข้าอบรมตามหลักสูตรที่สำคัญต่างๆทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชน

ทั้งนี้ได้ส่งนายสิทธิพงษ์ บ่อทรัพย์ เข้าอมรมหลักสูตรต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม และการจัดการก๊าซเรือนกระจก เพื่อให้สามารถนำมากำหนดแนวทางการปฎิบัติงานการจัดการก๊าซเรือนกระจกให้สอดคล้องกับหลักสากลได้