ลักษณะการประกอบธุรกิจ
ระดับราคาที่ตอบโจทย์ คนส่วนใหญ่
ตั้งแต่ราคาระดับล่าง จะมีช่องทางการขายสินค้าผ่าน Modern trade เช่น BigC และ Tesco Lotus ในราคาระดับกลาง บริษัทสามารถขายได้ทั่วประเทศ ซึ่งมีช่วงราคา 700-800 บาท จะมีสินค้าในกลุ่มของ Doomm Series , Wireless bar และ Modern V ส่วนราคาระดับบน จะมีช่วงราคาตั้งแต่ 1,000 บาท ขึ้นไป ที่มีสินค้าอยู่ในกลุ่มของแบรนด์ Mad moiselle , Maggie mae และ Cris’s collection ซึ่งจะมีขายเฉพาะตัวเมืองใหญ่และในกรุงเทพฯ เท่านั้น






คุณลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์
ลักษณะเด่นของชุดชั้นใน SABINA ด้านนอกจะเห็นว่าเป็นสินค้าแฟชั่น ลูกไม้ ที่มีความสวยงาม ดึงดูดอารมณ์ของผู้ซื้อ แต่ด้านในมักจะเป็น function ที่มีการตัดเย็บโดยใช้ผ้าแถบมายึดรูปทรงตาม pattern ที่ตัดมาเพื่อรองรับสรีระหน้าอกรูปแบบต่างๆ หรือเนื้อส่วนเกินของผู้หญิง และการใช้ฟองน้ำแบบหนา แบบบาง
ฟองน้ำที่ไปข้างหน้าที่อยู่ภายใต้ดีไซน์ของรุ่น Doomm Doomm หรือฟองน้ำที่อยู่ด้านข้างเพื่อที่จะดันให้หน้าอกชิดเพื่อความสวยงามในการสวมใส่เสื้อผ้า ดังนั้นจะเห็นได้ว่าชุดชั้นใน SABINA ทุกชิ้น ทุก collection จะตอบโจทย์ตามสรีระที่แตกต่างกันของผู้หญิงตั้งแต่สาวคัพเล็กไปจนถึงสาวคัพใหญ่
ปรับทิศทางการผลิตเพื่อแบรนด์ของลูกค้ามาเป็นแบรนด์ของตนเอง
บริษัทฯ ได้ปรับเป้าหมายการดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2546 โดยลดสัดส่วนการขายผลิตภัณฑ์ OEM กับสัดส่วนการขายภายใต้แบรนด์ซาบีน่าในประเทศมาตลอด
จนล่าสุดปี 2567 มีสัดส่วนการขายผลิตภัณฑ์ OEM ร้อยละ 6 และสัดส่วนการขายภายใต้แบรนด์ ร้อยละ 94 ของรายได้รวมตามงบการเงินรวม แต่บริษัทฯ ยังคงนโยบายในการรักษาสัดส่วนการขายผลิตภัณฑ์ OEM ให้อยู่ในระดับไม่เกินร้อยละ 10-20 ของกำลังการผลิต
โครงสร้างรายได้


แบรนด์ซาบีน่า
- ยอดขายช่องทาง Off-line ใน Q4/2567 ลดลง 2.4% สอดคล้องกับแนวโน้มของตลาด แต่เมื่อดูรวมทั้งปี 2567 ยังคงเติบโตได้ 0.5%
- ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในปี 2024 ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายจากร้านค้าที่ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวเติบโตถึง 7.6%
- Sabina ตั้งเป้าที่จะรักษาระดับจำนวนร้านค้าไว้ที่ 520-525 สาขาภายในสิ้นปี 2568 โดยจะเน้นการเปิดร้านค้าในทำเลที่มีผู้คนสัญจรหนาแน่นมากขึ้น
NSR
- ยอดขาย Online เติบโตได้สูงสุดใน Q4 เนื่องจากช่วงปลายปีลูกค้าหันมาซื้อสินค้าออนไลน์กันมากขึ้น ทำให้ซาบีน่ายังคงครองตำแหน่งผู้ขายออนไลน์อันดับหนึ่งของประเทศไทย และเพื่อกระตุ้นยอดขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทจัดแคมเปญโปรโมชั่นรายเดือนบนแพลตฟอร์มอย่าง Shopee, Lazada และ TikTok
- ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปซื้อของทางออนไลน์เพิ่มขึ้น ทำให้ยอดขายจากช่องทางดั้งเดิมอย่าง TV และ CATALOGUE ลดลง
- นอกจากนี้ ความพยายามทางการตลาดที่เพิ่มมากขึ้นยังส่งผลต่อการขยายตัวของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้ยอดขายเติบโตผ่านช่องทางธุรกิจอื่นๆ มากขึ้น




OEM
- ตลาดในยุโรปเติบโตดีใน Q4 โดยมีลูกค้ามาเยี่ยมชมโรงงานมากขึ้นเมื่อเทียบกับ Q3 การเพิ่มขึ้นนี้ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 67% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากลูกค้าต้องการสินค้าใหม่ๆ สำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่และวาเลนไทน์
- เราดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ได้มากขึ้น โดยเฉพาะบริการตัดเย็บและการแพ็คสินค้า นอกจากนี้การร่วมมือกับพันธมิตรผู้ผลิตวัตถุดิบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังช่วยลดอุปสรรคด้านภาษีศุลกากร ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
- ด้วยความมุ่งมั่นที่มีต่อวัตถุดิบจากแหล่งผลิตในท้องถิ่น และการดูแลสนับสนุนลูกค้าอย่างครบวงจรยังคงเป็นจุดแข็งที่สำคัญของเรา นอกจากนี้การที่บริษัทให้ความสำคัญต่อความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ยังสอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้าในปัจจุบัน