11 November 2008

ชี้แจงผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือนปี2551

ที่ ซบน.006/2551 11พฤศจิกายน 2551 เรื่อง ชี้แจงผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือน ปี 2551 เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) ขอเรียนชี้แจงผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือน ปี 2551 ดังนี้ งวดเก้าเดือนปี 2551 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการบริการ 1,469.93 ล้านบาท ลดลง 101.81 ล้านบาท คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 6.48 สาเหตุหลักเกิดจากรายได้จากการขาย OEM ลดลง 182.16 ล้านบาท เนื่องจากค่าเงินบาทเทียบกับสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐที่แข็งค่าขี้น และการที่บริษัททยอยลดคำสั่งซื้อจากลูกค้า OEM ที่ ให้อัตรากำไรขั้นต้นน้อย เพื่อปรับตามสถานการณ์เงินบาทแข็งค่าขึ้น อีกทั้งวิกฤตการณ์เศรษฐกิจของประเทศ สหรัฐอเมริกาและประเทศแถบทวีปยุโรป ทำให้บริษัทฯ ต้องระมัดระวังในการรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ถึงแม้ว่ารายได้จากการขายสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทย่อยจะเพิ่มขึ้น 81.42 ล้านบาท แต่ยังไม่เพียง พอที่จะชดเชยการลดลงของรายได้จากการขายสินค้า OEM ได้จึงเป็นเหตุให้รายได้จากการขายของบริษัทฯ ลดลง ดังกล่าว สำหรับต้นทุนขายนั้นมีมูลค่าเท่ากับ 917.08 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปี 2550 เป็นจำนวน 227.08 ล้านบาท คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 19.85 ซึ่งมีสาเหตุจากยอดขาย OEM ที่ลดลง ประกอบกับบริษัทฯ มีการ ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตด้วยการนำระบบการผลิตแบบลีน (Lean Manufacturing System) เข้ามาใช้ซึ่งช่วยให้ บริษัทฯ สามารถบริหารต้นทุนการผลิตได้ดียิ่งขึ้นโดยมีกำไรขั้นต้น 552.85 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนกำไรขั้นต้นร้อย ละ 37.61 สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในงวดเก้าเดือน ปี 2551 เท่ากับ 384.15 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น จากงวดเดียวกันของปี 2550 เป็นจำนวน 91.89 ล้านบาท เป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.44 เนื่องจากงวดเก้าเดือน ปี 2551 บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการโฆษณา และส่งเสริมการขายมากขึ้นเพื่อเพิ่มยอดขายสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้า ของบริษัทย่อย จึงทำให้บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานเท่ากับ 168.7 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรจากการ ดำเนินงานร้อยละ 11.48 งวดเก้าเดือน ปี 2551 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 148.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2550 เท่ากับ 42.69 ล้านบาท เป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 40.41 ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากนโยบายเดิมจากปีที่แล้วไม่ว่า จะเป็นเรื่องของการเพิ่มยอดขายภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทย่อยและการทยอยลดการรับคำสั่งซื้อของลูกค้า OEM ที่ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นน้อยโดยเน้นรับลูกค้า OEM ที่มีรูปแบบสินค้าเป็นแนวแฟชั่นซึ่งทำให้สามารถตั้งราคาได้ สูงขึ้น และการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตแบบลีน( Lean Manufacturing System) ประกอบกับภาระดอกเบี้ยจ่าย ที่ลดลง 11.91 ล้านบาท จึงทำให้บริษัทฯมีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 9.94 จึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอแสดงความนับถือ ( นายอภิสิทธิ์ จงกิตติพงศ์ ) กรรมการ